ไม่มีใครอยากแบกร่างตื่นเช้า ฝ่าการจราจรไปทำงานจนถึงอายุวิ่งไปแตะเลข 6 หลายคนฝันหวานบ่อยๆว่า อยากอยู่บ้านชิลๆ มีเงินใช้ ไม่ขัดสน แต่สุดท้ายเรื่องจริงมักไม่เป็นอย่างฝัน หลายคนยังอดหวั่นเกรงในใจไม่ได้ว่า วันนั้นจะมาถึงได้จริงหรือไม่ หรือถ้ามาถึงแล้ว จะได้เกษียณแบบที่ฝันได้กิน-เที่ยวชิลๆ หรือ ต้องเกษียณแบบคิดหน้าคิดหลัง ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

         หากทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดไม่สบายใจอยู่เสมอ ขอให้ลองหลับตาและจินตนาการภาพตามว่า การวางแผน เออรี่ รีไทร์ ก็เหมือนการผ่อนบ้านกับธนาคาร ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งไปถึงเป้าหมายไว้ แต่ทุกครั้งที่ออกสตาร์ท คุณมักจะเลือกปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยการเลือกระยะเวลาการผ่อนชำระกับธนาคารให้นานที่สุด ทั้งที่ในใจคิดอยากจะหาเงินมาเทเพื่อลดต้นลดดอกให้เร็วที่สุด อารมณ์เดียวกับเวลาทำงาน

       

  ไม่ผิดที่จะตั้งเป้าไว้ว่าจะเกษียณตอน 60 แต่คุณสามารถลดทอนเป้าหมายลงได้ ถ้าคุณทบต้นทบดอกให้เงินทองที่คุณสะสมไว้งอกเงย ไม่สำคัญว่า ตอนนี้คุณจะอายุเท่าไหร่ เพราะทุกความฝันเป็นจริงได้ เพียงแต่เริ่มก่อนมีสิทธิ์ถึงฝันก่อน จากนี้คือ 6 ขั้นตอนง่ายๆที่จะพาคุณไปถึงฝัน

         1.อย่ามือเติบเพราะหาได้มาก หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้เงินทองของคุณงอกเงยคือ หาให้ได้มาก แต่ใช้ให้น้อยลง ท่องไว้หาได้มากก็ต้องออมให้มากตาม

         2.ออมให้มากไม่พอ ต้องใช้ให้เงินทำงาน มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายคุ้นหูกันดีว่า รายได้คนเรามี 2 ประเภท คือ รายได้หลักที่เกิดขึ้นเมื่อเราทำงาน เรียกว่า Active Income และ รายได้ทางอ้อม คือ รายได้ที่เกิดจากการปล่อยให้เงินทำงาน

         หลายปีมานี้ Passive Income กลายเป็นอัศวินในการช่วยออมเงินที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ โดยแหล่งที่มาของ Passive Income ของคนยุคนี้ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หวังเป็นเสือนอนกินจากการเก็บค่าเช่า ก็มักหันมาลงทุนในสินทรัพย์การเงินต่างๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ทองคำ ฯลฯ แน่นอนว่า การลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้นวิธีสุดคลาสสิกที่บรรดากูรูการเงินแนะนำเป็นเสียงเดียวกันคือ ให้กระจายความเสี่ยง กระจายไข่ไว้หลายๆตะกร้า ต่อให้ตกแตกไปใบสองใบ ก็ยังมีเหลือ  

        

         3.มองหาอาชีพเสริม สมัยนี้แทบไม่มีใครทำอาชีพเดียว แล้วอยู่รอดโดยไม่พึ่งอาชีพเสริม คุณไม่ควรดูถูกความสามารถและศักยภาพของตัวเอง ลองประเมินดูซิว่าตัวเอง มีความสามารถอะไรที่ยังซุกซ่อนอยู่ และ อาจไม่ได้ใช้ในงานประจำที่ทำ ลองเอามาสร้างอาชีพเสริมในวันหยุดเพื่อหารายได้เอาไว้สมทบกองทุนเงินออมพิชิตฝันที่จะเออรี่ รีไทร์

         4.ทำงานเก็บเงินซื้อบ้านให้ไว อย่ารอจนแตะเลข 3 แล้วค่อยคิดอยากมีบ้านกว่าตัวเอง ไม่มีสูตรสำเร็จว่าคุณต้องซื้อบ้านหลังแรกเมื่อไหร่ คุณอยู่กับความพร้อมของคุณ ยิ่งกู้เร็วผ่อนเร็วก็หมดไว ถ้าอยากลดภาระตอนเข้าสู่วัยเก๋า ให้เร่งสร้างความมั่นคงซื้อบ้านให้ไว อย่างน้อยถ้าผ่อนหมดตอนอายุ 40 ปลาย50 หย่อนๆได้ คุณก็หมดภาระเร็ว สุดท้ายแล้วคุณอาจไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านหลังแรกในชีวิตไปจนตาย เมื่อจังหวะและโอกาสมาถึงคุณอาจจะขาย แล้วเอาเงินที่ได้ ซึ่งน่าจะมากกว่าราคาที่ซื้อพอสมควร ไปซื้อบ้านหลังใหม่ที่ตอบโจทย์ตัวคุณในเวลานั้นแทนก็ได้

         5.ยอมเสียสละบางอย่าง เพื่อให้ไปถึงฝันเร็วขึ้น ลองถามตัวเองซิว่า คุณพอจะมีอะไรที่คิดว่าตัวเองสละได้ทั้งที่คนอื่นอาจมองว่าจำเป็น เช่น ลองวางแผนครอบครัว จะมีลูกกี่คน ต้องมี 3 คนอบอุ่น หรือ สำหรับคุณ ลูกคนเดียวก็พอแล้ว หรือจำเป็นมั้ยที่คุณต้องมีคอนโดมิเนียมในย่านใจกลางเมือง หรือรับได้หากจะสละแสงสีในเมืองไปซื้อบ้านพร้อมที่ หรือ คอนโดย่านชานเมืองที่ห้องใหญ่ฟังก์ชั่นครบ สะดวกสบายไม่แพ้กัน แต่ราคาสบายกระเป๋าขึ้น การคมนาคมก็สะดวกในระดับที่ใช้ได้ แต่อาจไม่ได้อยู่ในโลเคชั่นที่ไพรม์ในย่านซีบีดี เป็นต้น  

         6.วางแผนบริหาร Passive income ให้ชัด ในวันที่ชีวิตเดินมาถึงจุดเปลี่ยน รายได้ที่เคยแน่นอนจากเงินเดือน กำลังจะกลายเป็นความหลัง คุณต้องมั่นใจว่า ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงให้บรรดา Passive income แล้วจะผลิดอกออกผลให้คุณได้

ขอบคุณที่มา : www.forbes.com